เนตรนภัสเว็บไซต์

เนตรนภัสชวนเข้าครัว : ทำบลูเบอร์รี่ชีสพายกันเถอะ
โพสโดย Naitnapas เมื่อ พฤศจิกายน 29 2011 15:25:32

ในรอยกาลก็จบแล้ว แถมเนตรนภัสยังกลายเป็นผู้อพยพเลยต้องระเห็จไปอยู่ต่างจังหวัด ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับกทม. นะคะ คิดว่าคงกลับหลังปีใหม่ไปเลย เพราะอีกไม่กี่วันก็วันเกิดพ่อแล้ว กะอยู่ฉลองด้วยเสียหน่อย

ในระหว่างระกำหนดการออกของในรอยกาลและใต้ละอองรักที่กำลังคิดว่าจะเอาบทนำมาลงวันไหน ตอนนี้เลยขอคั่นเวลากันด้วยการชวนเพื่อนๆ มาทำขนมด้วยกัน เป็นขนมฝั่งที่เหมือนจะทำยาก แต่จริงๆ แล้วทำง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นก็คือบลูเบอร์รี่ชีสพาย ^^

ไม่น่าเชื่อว่าแค่มีตู้เย็นกับตะกร้อมือ(แบบตีไข่ที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า) ก็สามารถทำได้แล้วง่ายๆ เลยค่ะ

มาดูวัตถุดิบกันก่อนว่ามีอะไรบ้าง

1. แครกเกอร์หรือขนมปังกรอบ ใช้ Hup Seng แบบครีมแครกเกอร์เนตรนภัสใช้ทั้งห่อจ้า
2. นมข้นหวาน 1/4 กระป๋อง หรือเพิ่มลดตามชอบ เนตรนภัสใช้ช้อนแบบช้อนกลางประมาณ 4 ช้อนจ้า
3. นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
5. ครีมข้น 1 กระป๋อง (ขนาดเท่ากระป๋องนมตราหมี)
6. เนยสด เค็มหรือจืดก็ได้ประมาณ 1 ก้อน (227 กรัม)
7. ครีมชีส 250 กรัม (หรือ 1 ก้อนนั้นแล)
8. บลูเบอรี่หรือเชอรี่ฟิลลิ่งก็ได้ตามชอบ

เนื่องจากบ้านนอกหาซื้อครีมข้นไม่ได้เนตรนภัสก็เลยไม่ใส่นะคะ (บางสูตรใช้แค่ครีมชีสกับนมข้นหวานด้วยซ้ำ) ส่วนพวกมาตรวัดเนี่ย เนตรนภัสไม่ได้ซีเรียสเลยค่ะ เพราะใช้วิธีชิมรสที่ชอบเอาน๊าาาาา

พอได้ของครบแล้วเราก็มาลงมือทำกันเลย

เริ่มต้นทำครัซหรือส่วนตัวฐานกันก่อนนะคะ เริ่มจากบดแครกเกอร์ให้ละเอียดค่ะ ในขั้นตอนนี้ใครมีเครื่องบดของแห้งก็ใส่ไปโลดค่า แต่เนตรนภัสใช้วิธีเอาแครกเกอร์ใส่ถุงแล้วใช้สากไม้คลึงๆ บดๆ เอานะคะ หรือใครจะใช้ขวดหรือของใกล้มือที่ประยุกต์ใช้ได้ก็ไม่ว่ากันค่ะ เสร็จออกมาแล้วหน้าตาจะเป็นแบบนี้

หลังจากนั้นก็นำเนยสดที่ละลายแล้ว เนตรนภัสใช้ใส่ไมโครเวฟเอานะคะ ใช้ไฟไม่สูงมากใช้เวลาครู่เดียวหมั่นเปิดดูค่ะ เพราะกลัวเนยจะไหม้เสียก่อนละลายน๊าาาา นำมาผสมกับแครกเกอร์ที่เราป่นเอาไว้แล้วจนเข้ากันดี

รู้ได้ยังไงว่าผสมได้ที่แล้ว สังเกตง่ายๆ เลยค่ะ ลักษณะของมันจะเหมือนทรายร่วนๆ หน้าตาแบบนี้เลย

เรียบร้อยแล้วเราก็เอาไปกรุในพิมพ์ให้แน่น สูตรนี้จริงๆ แล้วถ้าใส่พิมพ์ขนาด 9 นิ้ว จำนวน 2 ถาดด้วยกันนะคะ แต่เนื่องจากเนตรนภัสไม่ได้ซื้อพวกถาดฟรอยด์หรือมีพิมพ์ที่บ้านนี้ ก็เลยใส่จานค่ะ จานเล็กกว่า 9 นิ้ว จึงได้ฐานถึง 3 จานด้วยกัน

เสร็จแล้วถ้าบ้านใครมีเตาอบก็เอาเข้าอบด้วยไฟบนล่างอุณหภูมิ 175C ประมาณ 15 นาทีหรือจนหอมนะคะ ถ้าใครไม่มีเตาอบแต่มีหม้ออบแบบฝาบนก็ใช้ได้เล่นเดียวกันค่ะ แต่ต้องหมั่นสังเกตอย่าให้ไหม้นะคะ นำออกมาวางพักให้เย็นแล้วนำเข้าตู้เย็นค่ะ

แต่ถ้าไม่อบก็ไม่มีปัญหานะคะ เพียงแต่จะไม่หอมเท่าอบเท่านั้นเอง บ้านนี้มีแต่หม้ออบและแม่ก็อบปลาเป็นประจำเนตรนภัสเลยไม่เสี่ยงเอาขนมไปอบ เดี๋ยวได้กินบลูเบอร์รี่ชีสพายกลิ่นปลากันพอดี จึงแค่เอาเข้าตู้เย็น ถ้าใครใส่ช่องฟรีซแค่ 30 นาทีก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใส่ช่องธรรมดาก็ 2 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อให้ตัวครัซเซ็ตตัวเต็มที่นะค๊าาาาา

พอตัวครัซได้ที่เราก็มาเริ่มทำครีมชีสกันค่า

ถ้าบ้านไหนมีตะกร้อไฟฟ้าก็เริ่มตีครีมชีสให้เนียนก่อนได้เลยค่ะแล้วค่อยใส่พวกครีมข้น นมข้นหวาน นมข้นจืดและน้ำมะนาว แต่เนตรนภัสออกแรงตีมือดังนั้นจึงเอาครีมชีสใส่อ่างแล้วใส่นมข้นหวานเลยเพื่อให้นมช่วยให้ตีง่ายขึ้น

ค่อยๆ ใส่นมข้นจืด น้ำมะนาว(อย่าเพิ่งหนักมือนะคะเพราะถ้าเปรี้ยวไปจะแก้ยาก) ตีให้เข้ากันจนเนียน ในขั้นตอนนี้ก็ชิมดูนะคะว่าได้รสที่ชอบไหม ถ้ายังแล้วเป็นคนชอบเปรี้ยวแล้วยังไม่เปรี้ยวก็เติมมะนาวได้ ใครชอบหวานหน่อยก็เติมนมข้นหวานเอาค่ะ

ในการตีครีมชีสมีทริกอยู่เล็กน้อยนะคะ ตัวครีมชีส นมข้นหวานและจืดจะต้องเอาออกจากตู้เย็นมาวางให้ได้อุณหภูมิห้องก่อน ถ้าเผลอใส่นมเย็นๆ ลงไป ตัวครีมจะเป็นเม็ดๆ ไม่เนียนค่ะ

เสร็จแล้วก็นำมาราดบนตัวครัซที่ทำเสร็จแล้ว

แล้วนำกลับไปใส่ตู้เย็นอีกรอบ เพื่อให้ครีมชีสเซ็ตตัวนะคะแล้วค่อยนำออกมาราดฟิลลิ่ง

เสร็จเรียบร้อยแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ค่า น่ากินไหม ^^

ใครจะราดลงไปบนถาดใหญ่ทั้งถาดเลยก็ได้นะคะไม่ว่ากัน แต่ที่บ้านเนตรนภัสตัดเป็นชิ้นๆ แล้วค่อยราดค่ะ ตัวบลูเบอร์รี่ฟิลลิ่งนี่ก็เอาแช่ตู้เย็นไว้ก่อนของเย็นกับของเย็นมาเจอกันจะได้อร่อยล่ำ ^^

(ทุกคนอย่าแปลกใจว่าตอนถ่ายรูปวัตถุดิบเป็นเชอร์รี่ตอนราดไหงกลายมาเป็นบลูเบอร์รี่ได้ล่ะ ก็แบบว่าเชอร์รี่หม่ำหมดแล้วเลยต้องซื้อบลูเบอร์รี่อีกกระป๋องมาราด นี่เป็นข้อเสียของการราดทีละชิ้นค่ะ มันจะเปลืองมาก เพราะเนตรนภัสตักหนักมือไปหน่อย ฮ่า)

ลองทำกันดูนะคะ ไม่อยากอย่างที่คิดและสูตรนี้ก็อร่อยล้ำ ทำกี่รอบๆ ก็หมดทุกรอบเลย

มีความสุขกับการทำอาหารค่ะ